วันที่นำเข้าข้อมูล 28 ส.ค. 2562
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 12 เม.ย. 2567
ทำการนัดหมายกับสถานเอกอัครราชทูตฯ ทาง [email protected] หรือ โทร +3614384020
โปรดตรวจสอบวันหยุดของสถานเอกอัครราชทูตฯ ก่อนมารับบริการเพื่อความสะดวกของท่าน ที่นี่
การจดทะเบียนเกิดบุตร (ขอสูติบัตรไทย)
การจดทะเบียนสมรส/ ทะเบียนหย่า
การจดทะเบียนการตาย (ขอมรณบัตร)
1. การจดทะเบียนเกิดบุตรขอให้นัดล่วงหน้าที่ [email protected]
โปรดตรวจสอบวันหยุดของสถานเอกอัครราชทูตฯ ก่อนนัดหมาย เพื่อความสะดวกของท่าน ที่นี่
2. ทั้งบุตรและผู้ปกครอง (บิดาและมารดา) จะต้องมาติดต่อด้วยตนเอง
3. เด็กที่จะขอสูติบัตรไทยจากสถานเอกอัครราชทูตฯ ต้องเป็นเด็กที่เกิดในประเทศฮังการี โครเอเชีย มอนเตเนโกร บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา หรือ โคโซโว และมีใบรับรองการเกิดฉบับสมบูรณ์จากทางการท้องถิ่น แล้วเท่านั้น
4. การจดทะเบียนเกิดบุตรไม่เสียค่าธรรมเนียม
หมายเหตุ: หากผู้ร้องเกิดก่อน 1 มีนาคม พ.ศ. 2535 (1992) ให้ดูรายละเอียดในหัวข้อ 3.4
* เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นคำร้องในการออกหนังสือเดินทางให้แก่บุคคลสัญชาติไทยที่เกิดในต่างประเทศตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548 นั้น เมื่อบิดามารดาได้แจ้งเกิดและขอทำหนังสือเดินทางเล่มแรกให้แก่เด็กแล้ว จะต้องดำเนินการเพิ่มชื่อและรายการบุคคลเข้าในทะเบียนบ้านที่สำนักงานเขตหรืออำเภอที่มีภูมิลำเนาอยู่ เพื่อให้เด็กมีหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบข้อมูลหลักฐานการขอหนังสือเดินทางของบุคคลสัญชาติไทย ดังนั้น กระทรวงการต่างประเทศจะอนุโลมออกหนังสือเดินทางเฉพาะเล่มแรกเท่านั้นให้แก่เด็กที่เกิดในต่างประเทศและยังไม่มีหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
สามารถค้นข้อมูลเกี่ยวกับการเพิ่มชื่อและรายการบุคคลเข้าในทะเบียนบ้านที่ http://www.bora.dopa.go.th/CallCenter1548/index.php/menu-population/13-service-handbook/population/29-population-add-name
2. แบบฟอร์มที่ต้องกรอก
1. แบบฟอร์มคำร้องขอทะเบียนคนเกิด (แบบฟอร์มที่12) จำนวน 1 ชุด
2. บันทึกสอบสวน (แบบฟอร์มที่ 2) จำนวน 1 ชุด
กรณีขอทำหนังสือเดินทางด้วย โปรดกรอกแบบฟอร์มคำร้องขอหนังสือเดินทางไปต่างประเทศ
3. คำร้องขอหนังสือเดินทางไปต่างประเทศ (แบบฟอร์มที่ 1) จำนวน 1 ชุด
3. หลักฐานประกอบ
หากขอทำหนังสือเดินทางด้วย กรุณาเตรียมเอกสาร อย่างละ 2 ชุด
3.1 กรณีบิดามารดาได้จดทะเบียนสมรสแล้ว
1. รูปถ่ายสีของบุตร ขนาด 35mm x 45mm จำนวน 1 ใบ
2. สำเนาสูติบัตรท้องถิ่น “ฉบับเต็ม” (Full Birth Certificate) จำนวน 1 ชุด
3. สำเนาทะเบียนสมรสของบิดาและมารดา จำนวน 1 ชุด
4. สำเนาหน้าหนังสือเดินทางของบิดาและมารดา จำนวน 1 ชุด
5. สำเนาบัตรประชาชน หรือ สำเนาทะเบียนบ้านของบิดาและ/หรือมารดาที่มีสัญชาติไทย จำนวน 1 ชุด
3.2 กรณีบิดามารดาไม่ได้จดทะเบียนสมรส
1. รูปถ่ายสีของบุตร ขนาด 35mm x 45mm จำนวน 1 ใบ
2. สำเนาสูติบัตรท้องถิ่น “ฉบับเต็ม” (Full Birth Certificate) จำนวน 1 ชุด
3. สำเนาหน้าหนังสือเดินทางของบิดาและมารดา จำนวน 1 ชุด
4. สำเนาบัตรประชาชน หรือ สำเนาทะเบียนบ้านของบิดาและ/หรือมารดา ที่มีสัญชาติไทย จำนวน 1 ชุด
5. มารดาจะต้องกรอกแบบฟอร์มบันทึกถ้อยคำ เพื่อยืนยันสถานะของบุตร
ส่วนบิดาจะต้องกรอกแบบฟอร์มคำขอเพื่อแจ้งความประสงค์และให้ความยินยอมให้บุตรใช้นามสกุลของตน หากบุตรต้องการใช้นามสกุลตามบิดา
6. สำเนาใบปกครองบุตร (ป.ค. 14) จำนวน 1 ชุด (ในกรณีไม่สามารถติดต่อกับบิดาของบุตร)
* เด็กจะได้สัญชาติไทยตามมารดาชาวไทยเท่านั้น ดังนั้น ในกรณีที่บิดาและมารดาไม่ได้จดทะเบียนสมรส และมารดาเป็นชาวต่างชาติ เด็กจะขอสัญชาติไทยได้เมื่อบิดาชาวไทยได้รับรองบุตรแล้วเท่านั้น *
3.3 กรณีบิดามารดาได้จดทะเบียนหย่าเเล้ว
1. รูปถ่ายสีของบุตร ขนาด 35mm x 45mm จำนวน 1 ใบ
2. สำเนาสูติท้องถิ่น “ฉบับเต็ม” (Full Birth Certificate) จำนวน 1 ชุด
3. สำเนาใบหย่าของบิดาและมารดา จำนวน 1 ชุด
4. สำเนาบันทึกการหย่าที่ระบุอำนาจการปกครองบุตร จำนวน 1 ชุด (กรณีจดทะเบียนหย่าในประเทศไทย)
5. สำเนาใบปกครองบุตร (ป.ค. 14) จำนวน 1 ชุด (กรณีจดทะเบียนหย่าในท้องถิ่นที่่ทานอาศัยอยู่)
6. สำเนาหน้าหนังสือเดินทางของบิดาและมารดา จำนวน 1 ชุด
7. สำเนาบัตรประชาชน หรือ สำเนาทะเบียนบ้านของบิดาและ/หรือมารดาที่มีสัญชาติไทย จำนวน 1 ชุด
3.4 กรณีเด็กเกิดก่อน 1 มีนาคม พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992)
1. กรอกแบบฟอร์มตามข้อ 2 และเตรียมเอกสารตามข้อ 3.1 หรือ 3.2 หรือ 3.3 หรือ 3.4 (แล้วแต่กรณี)
2. นำสูติบัตร “ฉบับเต็ม” (Full Birth Certificate) ไปประทับตรารับรองจาก Department of Foreign Affairs ในประเทศของท่าน (แล้วแต่กรณี)
3. สถานเอกอัครราชทูตฯ จะเก็บต้นฉบับสูติบัตรข้างต้นไว้เป็นหลักฐาน
4. บิดาและมารดาจะต้องมากรอกแบบฟอร์มบันทึกสอบปากคำ กรณีขอสัญชาติไทยย้อนหลังที่สถานเอกอัครราชทูตฯ เท่านั้น
***การมาติดต่อควรนำหลักฐานประจำตัวไทยตัวจริง มาให้พร้อมด้วย เช่น หนังสือเดินทางไทยบิดา มารดา บัตรประชาชนบิดา มารดา รวมถึงใบสูติบัตรของประเทศที่เด็กเกิดที่ระบุชื่อบิดา มารดาชัดเจน***
1. ข้อมูลทั่วไป
1. การจดทะเบียนสมรสหรือจดทะเบียนหย่าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ จะกระทำได้เฉพาะในกรณีการจดทะเบียนระหว่างบุคคลสัญชาติไทย หรือระหว่างบุคคลสัญชาติไทยกับต่างชาติเท่านั้น และถือเป็นการจดทะเบียนตามกฎหมายไทย
2. การขอจดทะเบียนฯ กรุณาติดต่อนัดหมายล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันทำการ และจะต้องส่งเอกสาร
ประกอบให้เจ้าหน้าที่ล่วงหน้าเพื่อตรวจและเตรียมจัดพิมพ์เอกสารที่เกี่ยวข้อง
3. การจดทะเบียนสมรส และทะเบียนหย่า ไม่เสียค่าธรรมเนียม
2. หลักฐานประกอบคำร้องการขอจดทะเบียนสมรส
1. คำร้องขอจดทะเบียนสมรส และ บันทึกถ้อยคำการจดทะเบียนสมรส ซึ่งกรอกรายละเอียดและลงชื่อโดยคู่สมรสแล้ว
2. หนังสือเดินทางที่ไม่หมดอายุของคู่สมรส
3. บัตรประชาชน หรือ สำเนาทะเบียนบ้านของคู่สมรส
4. ในกรณีที่เคยจดทะเบียนสมรสมาก่อนและหย่าแล้ว ต้องมีสำเนาทะเบียนหย่ามาแสดงด้วย
5. ในวันจดทะเบียนสมรส กรุณานำพยานไปด้วย 2 คน พร้อมหนังสือเดินทาง/บัตรประชาชน หรือ
สำเนาทะเบียนบ้านของพยาน
6. ใบรับรองโสด ของคู่สมรสทั้งสองฝ่าย (สำหรับคนไทย สามารถติดต่อขอรับใบรับรองความเป็นโสดได้ที่ที่ว่าการอำเภอฯ หรือ สำนักงานเขตฯ ที่ประเทศไทย) เพื่อใช้ในการจดทะเบียนสมรสที่สถานเอกอัครราชทูตฯ
3. หลักฐานประกอบคำร้องการขอจดทะเบียนหย่า
1. คำร้องขอจดทะเบียนหย่า ซึ่งกรอกรายละเอียดและลงชื่อโดยคู่หย่าแล้ว
2. ต้นฉบับทะเบียนสมรสของทั้งสองฝ่าย
3. หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุของทั้งสองฝ่าย
4. สำเนาบัตรประชาชน หรือ สำเนาทะเบียนบ้านของทั้งสองฝ่าย
5. ในวันจดทะเบียนหย่า กรุณานำพยานไปด้วย 2 คน พร้อมหนังสือเดินทาง/บัตรประชาชน หรือ
สำเนาทะเบียนบ้านของพยาน
ญาติของคนไทยที่เสียชีวิตในฮังการี โครเอเชีย มอนเตเนโกร บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา หรือ โคโซโว สามารถติดต่อขอมรณบัตรไทยที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ระหว่างเวลา 9.00 - 12.00 น. โดยต้องทำการนัดหมายล่วงหน้า
หลักฐานประกอบ
1. คำร้องขอมรณบัตร
2. มรณบัตรที่ออกโดยทางการท้องถิ่นของประเทศที่กล่าวข้างต้นและรับรองจากกระทรวงการต่างประเทศของประเทศนั้นๆแล้ว
3. ใบรับรองการฌาปณกิจศพ หรือ การจัดการศพของผู้เสียชีวิต
4. หนังสือเดินทางของผู้แจ้งขอมรณบัตรและของผู้เสียชีวิต
5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือ สำเนาทะเบียนบ้านของผู้แจ้งและของผู้เสียชีวิต
หมายเหตุ: การขอมรณบัตรไม่เสียค่าธรรมเนียม