สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์ ขอเรียนเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ณ วันที่ ๒๔ มี.ค. ๒๕๖๓ ดังนี้
๑. ฮังการี
๑.๑ พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ๒๐ ราย รวมเป็น ๑๘๗ ราย อยู่ระหว่างการกักกันตัว ๙๒ ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก ๑ ราย รวมเป็น ๙ ราย
๑.๒ ฮังการีปรับมาตรการตรวจสอบกรณีต้องสงสัยใหม่ โดยจะส่งรถพยาบาลไปตรวจสอบผู้ติดเชื้อถึงที่พัก และนำเฉพาะตัวอย่างกลับไปทดสอบ และจะแยกหน่วยแพทย์ประจำบ้านสำหรับโรคระบบทางเดินหายใจ จากการให้บริการกรณีการเจ็บป่วยอื่น ๆ เพื่อลดการติดต่อสัมผัสให้มากที่สุด
๒. โครเอเชีย
๒.๑ พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ๖๗ รวมเป็น ๓๘๒ ราย
๒.๒ ๒๓ มี.ค. ๒๕๖๓ มีคำสั่งห้ามออกนอกเคหะสถานยกเว้นการให้บริการสาธารณะ ความจำเป็นทางการแพทย์ ความจำเป็นทางครอบครัว เช่น การดูแลเด็กและผู้สูงอายุ การหาซื้อสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีพ การเดินทางไปทำงานที่ไม่สามารถทำจากบ้านได้ โดยผู้ที่จะออกจากเคหะสถานจะต้องได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่นก่อน
๒.๓ ๒๔ มี.ค. ๒๕๖๓ รัฐบาลโครเอเชียออกมาตรการทางเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการระยะสั้น ๓ เดือน อาทิ ผ่อนผันสถานประกอบการให้เลื่อนการชำระค่าเช่าอาคาร / ที่ดิน จากรัฐบาลโครเอเชีย มาตรการรักษาการจ้างงานโดยจ่ายเงินเดือนให้ลูกจ้างในสาขา โรงแรม อาหาร ขนส่ง การผลิต และกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐบาล โครงการเงินกู้เพื่อรักษาสภาพคล่องแก่กิจการ SMEs และการผ่อนผันการชำระภาษีต่าง ๆ ออกไป
๓. บอสเนียฯ
๓.๑ พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ๓๓ ราย รวมเป็น ๑๖๒ ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยในเขตการปกครอง Federation of Bosnia and Herzegovina (FBiH) ๔๘ ราย และเขตการปกครอง Republika Srpska (RS) ๑๑๔ ราย และมีผู้เสียชีวิต ๒ ราย
๓.๒ ครม. บอสเนียฯ มีมติให้สนามบินทุกแห่งในบอสเนียฯ หยุดให้บริการผู้โดยสารตั้งแต่วันที่ ๓๐ มี.ค. ๒๕๖๓ เป็นต้นไป คงเหลือเฉพาะเที่ยวบินขนส่งสินค้าเท่านั้น และห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ ยกเว้นนักการทูตและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่เข้ามาปฏิบัติงานต้าน COVID-19
๔. มอนเตเนโกร
พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ๗ ราย รวมเป็น ๒๙ ราย และมีผู้เสียชีวิตรายแรกแล้ว
๕. คอซอวอ
มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ๓๐ ราย รวมเป็น ๖๑ ราย และมีผู้เสียชีวิต ๑ ราย