สถานการณ์และมาตรการของฮังการีในการรับมือ COVID-19 ณ วันที่ ๑๕ มี.ค. ๒๕๖๓

๑. ขณะนี้มีตัวเลขพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั้งสิ้น ๓๒ คน อยู่ระหว่างการ quarantine ๑๕๙ คน รักษาหายแล้ว ๑ คน จากการตรวจหาผู้ติดเชื้อ ๑,๒๓๖ คน

๒. รัฐบาลฮังการีได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศโดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา ๑๕.๐๐ น. ของวันที่ ๑๑ มี.ค. ๒๕๖๓ เป็นต้นไป เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ดังนี้
๑) ห้ามผู้เดินทางจากอิตาลี จีน เกาหลีใต้ อิหร่าน และอิสราเอล (ประกาศเพิ่มเมื่อ ๑๔ มี.ค. ๒๕๖๓) เข้าฮังการีเป็นการชั่วคราว ยกเว้นชาวฮังการียังสามารถเดินกลับเข้า ปท. ได้ โดยต้องกักกันตัวที่บ้านเป็นเวลา ๑๔ วัน
๒) ระงับเที่ยวบิน รถไฟ และรถโดยสารจากจากกลุ่มประเทศตามข้อ ๑) ยกเว้นสำหรับการเคลื่อนย้ายชาวฮังการีกลับประเทศ หรือเป็นเครื่องบินเปล่าที่เดินทางเข้ามารับประชาชนของประเทศเหล่านั้นกลับประเทศ
๓) ตั้งจุดควบคุมการผ่านแดนที่ชายแดนฮังการี – สโลวีเนีย และฮังการี-ออสเตรีย และเพิ่มความเข้มงวดที่จุดผ่านแดนฮังการี – โครเอเชีย
๔) ชาวต่างชาติจะสัญจรข้ามแดนทางบกระหว่างฮังการี-ออสเตรีย ได้ ๔ ช่องทางเท่านั้น
- Hegyeshalom-Miklóshalom (Nickelsdorf)
- Sopron-Kelénpatak (Klingenbach)
- Rábafüzes-Rábakeresztúr (Heiligenkreuz)
- Szentgotthárd-Gyanafalve (Jennersdorf) (สำหรับทางรถไฟ)

๕) ให้มหาวิทยาลัยหยุดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ ๑๒ มี.ค. ๒๕๖๓ และให้ปิดโรงเรียนตั้งแต่วันที่ ๑๖ มี.ค. ๒๕๖๓ (ประกาศเพิ่มเมื่อวันที่ ๑๔ มี.ค. ๒๕๖๓) เป็นต้นไป โดยให้มีการเรียนการสอนในระบบทางไกลเท่านั้น
๖) จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมในร่มไม่เกิน ๑๐๐ คน และกิจกรรมกลางแจ้งไม่เกิน ๕๐๐ คน ยกเว้น โรงงาน สถานประกอบการ ร้านอาหาร และศูนย์การค้า การแข่งขันฟุตบอลยังทำได้โดยไม่มีผู้ชมในสนาม
๗) ห้ามโรงเรียนจัดการทัศนศึกษาในต่างประเทศ และระงับโครงการนักเรียนฮังการีไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศในภาคฤดูร้อนเป็นเวลา ๑ ปี
๘) ผ่อนผันให้เอกสารราชการต่าง ๆ อาทิ บัตรประชาชน ที่หมดอายุยังสามารถใช้งานได้อีก ๑๕ วัน หลังจากยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ไม่รวมถึงเอกสารสำหรับคนต่างชาติ เช่น การตรวจลงตรา