เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์ จัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2568 ณ Gundel Cafe Patisserie Restaurant โดยมีนาย István Jakab รองประธานรัฐสภาฮังการีเป็นแขกเกียรติยศ และผู้เข้าร่วมงานกว่า 250 คน ประกอบด้วยคณะทูตานุทูต ผู้แทนระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนฮังการี มิตรประเทศไทย สื่อมวลชนฮังการี ผู้แทนภาคเอกชนไทย ตลอดจนชุมชนไทยในฮังการี

 

ในช่วงพิธีการ เอกอัครราชทูตฯ เชิญผู้ร่วมงานยืนสงบนิ่งเพื่อถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ โดยกล่าวถึงพระราชกรณียกิจอันทรงคุณูปการของทั้งรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทั้งด้านเศรษฐกิจพอเพียง การบริหารจัดการน้ำ ผ้าไหม งานหัตถกรรม และบทบาทในการหล่อหลอมอัตลักษณ์ความเป็นไทย

 

ด้านความสัมพันธ์ไทย–ฮังการี เอกอัครราชทูตฯ กล่าวถึงกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรม การลงทุนของไทยในฮังการี ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงการเยือนระดับสูง ล่าสุดคือการเยือนของประธานรัฐสภาไทย พร้อมเน้นค่านิยมร่วมด้านสันติภาพและอธิปไตย และกล่าวถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของร้าน Gundel ซึ่งรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จเยือน พร้อมเชิญชวนให้ร่วมกันสืบสานมิตรภาพไทย–ฮังการีเพื่อประโยชน์ของสองประเทศและประชาคมโลก โดยนาย Jakab ได้กล่าวตอบแสดงความชื่นชมประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการพัฒนาของไทย พร้อมย้ำว่าความร่วมมือไทย–ฮังการีเข้มแข็งที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง การพัฒนาอย่างยั่งยืน และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม รวมถึงความร่วมมือด้านรัฐสภา

 

ฮังการีมองไทยเป็นพันธมิตรสำคัญภายใต้นโยบาย “Eastern Opening” พร้อมผลักดันการค้า เทคโนโลยีการแพทย์ นวัตกรรมเกษตร และอุตสาหกรรมน้ำ ตลอดจนการเติบโตของการศึกษาผ่านทุน Stipendium Hungaricum รวมถึงได้รับแรงบันดาลใจจากศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของไทย นาย Jakab ปิดท้ายด้วยการระบุว่า ท่ามกลางบริบทโลกที่ท้าทาย ฮังการีให้ความสำคัญกับความร่วมมือที่มีทั้งผลประโยชน์ร่วมและค่านิยมร่วม และมองว่าไทยคือพันธมิตรสำคัญ พร้อมอวยพรให้ประเทศไทยมีสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง และยืนยันความมุ่งมั่นในการสานต่อมิตรภาพไทย–ฮังการี

 

ภายในงานยังประกอบด้วย การบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยนายพงษ์ไพโรจน์ เลิศสุดวิชัย นักศึกษาไทยจากมหาวิทยาลัยเซเกด การฉายวีดิทัศน์เกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมถึงการบริการอาหารไทย ได้แก่ ต้มยำกุ้ง ผัดไทย ยำมาม่า และขนมไทย โดยทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ บริษัท ไทย เพรซิเดนท์ ฟู้ดส์ (ฮังการี) และร้านริมถนน พร้อมมอบของที่ระลึกแก่ผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งล้วนเป็นโอกาสสำคัญในการเผยแพร่อาหารไทย สินค้าไทย และอัตลักษณ์ความเป็นไทยให้เป็นที่รู้จักยิ่งขึ้น