ความสัมพันธ์ไทยกับฮังการี

ความสัมพันธ์ไทยกับฮังการี

วันที่นำเข้าข้อมูล 17 มี.ค. 2565

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 17 มี.ค. 2565

| 3,096 view
  1. ด้านการทูต

      ไทยและฮังการีมีความสัมพันธ์อันดีที่ยาวนานกว่า 152 ปี โดยเริ่มตั้งแต่การลงนามในหนังสือสัญญาไมตรี การค้า และการเดินเรือระหว่างราชอาณาจักรสยามกับจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2412 และต่อมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จประพาสยุโรปเมื่อปี 2440 โดยได้เสด็จฯ เยือนจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีอีกด้วย ไทยและฮังการีสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม  2516 โดยฮังการีจัดตั้งสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย เมื่อปี 2521 (ซึ่งมีเขตอาณาครอบคลุมสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว) และไทยจัดตั้งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์ เมื่อปี 2532 (มีเขตอาณาครอบคลุมสาธารณรัฐโครเอเชีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา มอนเตเนโกร และสาธารณรัฐคอซอวอ)

      ปัจจุบัน นายชานโดร์ ชีโปช (Mr. Sándor Sipos) ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิบัติหน้าที่เอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย และนายภควัต ตันสกุล ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์ โดยได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562

รายชื่อเอกอัครราชทูตไทยประจำฮังการี

  1. ม.ร.ว.สุทธิสวาท กฤดากร
  2. น.ส.ทัศนีย์ บุนนาค
  3. นายประดาป พิบูลสงคราม
  4. นายเฉลิมพล เอกอุรุ
  5. นายธวัชชัย ปิยรัตน์
  6. นายเปี่ยมศักดิ์ มิลินทจินดา
  7. นายกฤต ไกรจิตติ
  8. นายสมปอง สงวนบรรพ์
  9. นางขันธ์ทอง อูนากูล
  10. นายจักรกฤษณ์ ศรีวลี
  11. นายภควัต ตันสกุล
  12. นายนิพนธ์ เพ็ชรพรประภาส เอกอัครราชทูตคนปัจจุบัน

 

 

 

  1. ด้านเศรษฐกิจ

GDP 

149.94 พันล้าน USD (ปี 2563)

 

GDP Per Capital  

15,980.7 USD (ไทย 7,186.9 USD) (ข้อมูลจาก World Bank ปี 2563)

 

GDP Growth  

ร้อยละ - 4.9 (ไทย ร้อยละ -6.1 ) (ข้อมูลจาก World Bank ปี 2563)

 

สกุลเงิน แก้

1 HUF = 0.11 บาท (ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย วันที่ 22 มิ.ย. 2564)

 

อัตราเงินเฟ้อ 

ร้อยละ 3.3 (ไทย ร้อยละ –0.8) (ข้อมูลจาก World Bank ปี 2563)

 

อุตสาหกรรมหลัก

ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม รถยนต์ อุตสาหกรรมเกษตร ชิ้นส่วน ยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า

 

ทรัพยากรที่สำคัญ 

บ๊อกไซต์ ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ ปุ๋ย

 

การขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ร้อยละ -6.1 (ปี 2563)

 

สินค้าส่งออกที่ทำคัญ 

เครื่องจักรและอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์อาหาร วัตถุดิบ น้ำมันเชื้อเพลิง ไฟฟ้า

 

ตลาดส่งออกที่สำคัญ

ออสเตรีย ฝรั่งเศส สโลวาเกีย โรมาเนีย สหราชอาณาจักร อิตาลี เยอรมนี

 

สินค้านำเข้าที่สำคัญ

เครื่องจักรและอุปกรณ์ น้ำมันเชื้อเพลิง ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์อาหารและวัตถุดิบ

 

ตลาดนำเข้าที่สำคัญ

อิตาลี โปแลนด์ เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย จีน รัสเซีย เยอรมนี

 

  1. ด้านการท่องเที่ยว

             ในปี 2563 มีนักท่องเที่ยวชาวฮังการีเดินทางมาประเทศไทยจำนวน จำนวน 17,499 คน (ลดลง
อย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19) ขณะที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปฮังการีประมาณ 7,000 คน/ปี

 

4. ด้านการศึกษา

             ฮังการีให้ทุนการศึกษา Stipendium Hungaricum แก่นักเรียนและนักศึกษาไทยตั้งแต่ปี 2561 จำนวน 40 ทุน/ปี  ตั้งแต่ระดับปริญญาตรี โท และเอก โดยในปี 2561 มีนักศึกษาชาวไทยเข้ารับทุน จำนวน 28 คน ในปี 2562 มีนักศึกษาชาวไทยเข้ารับทุนจำนวน 13 คน และในปี 2563 มีนักศึกษาชาวไทยเข้ารับทุน จำนวน 40 คน

 

5.ด้านการค้า

          ไทยและฮังการีได้จัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (Joint Commission on Economic Cooperation) เมื่อปี 2548 และ 2558 ณ กรุงบูดาเปสต์

          5.1 มูลค่าการค้า

          การค้ารวมของประเทศทั้งสองมีมูลค่า 708.66 ล้าน USD (เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ร้อยละ 7.5) ซึ่งไทยได้เปรียบดุลการค้า 397.22 ล้าน USD (เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ร้อยละ 44) จากการส่งออก 552.94 ล้าน USD (เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ร้อยละ 34) และการนำเข้า 155.72 ล้าน USD (เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ร้อยละ 23) (ปี 2563)

          5.2 ฮังการีเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับที่ 53 โดยไทยส่งออกสินค้าไปยังฮังการีเป็นมูลค่า 9.122 พันล้านบาท และได้นำเข้าสินค้าจากฮังการีมูลค่า 3.823 พันล้านบาท

          5.3 สินค้าส่งออกหลักจากไทยสู่ฮังการี ได้แก่ รถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ เครื่องคอมพิวเตอร์ แผงสวิตช์ ก๊อกและวาวล์ หม้อแปลงไฟฟ้า และวงจรพิมพ์ คิดเป็นสัดส่วนต่อการส่งออกสินค้าทั้งหมดร้อยละ 59.13 ด้านสินค้าเกษตรกรรม การส่งออกยาง และสินค้าที่ทำ จากยาง จากไทยไปฮังการี คิดเป็นสัดส่วนสัดส่วนต่อการส่งออกสินค้าทั้งหมดร้อยละ 7.89 (ข้อมูลจาก สคต. ณ กรุงบูดาเปสต์ กันยายน 2564)

          5.4 สินค้านำเข้าจากฮังการี เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบอุปกรณ์ยานยนต์ ผลิตภัณฑ์เวชกรรม และเภสัชกรรม และเครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และการแพทย์

6. ด้านการลงทุน

              6.1 การลงทุนของฮังการีในไทย

           อ้างอิงจากข้อมูลสถิติของ BOI ระหว่างปี 2513 – 2564 มีการลงทุนจากฮังการจำนวน 5 โครงการ รวมมูลค่า 1,193 ล้านบาท (ประมาณ 37 ล้าน USD) ได้แก่

                    1) โครงการดำเนินธุรกิจแผงเซลล์แสงอาทิตย์ โดยบริษัท Bangkok Solar จำกัด

                    2) โครงการดำเนินธุรกิจประเภทสวนน้ำที่จังหวัดภูเก็ต โดยบริษัท CsenkiI จำกัด

                    3) โครงการผลิตสายไฟฟ้า จำนวน 2 โครงการ โดยบริษัท Amada Cable & Wire Harness (Thailand)

                    4)โครงการการลงทุนผลิตผัก ผลไม้ และน้ำผลไม้บรรจุกล่อง (tropical fruit wine)  

              6.2 การลงทุนของไทยในฮังการี

             บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) จัดตั้งบริษัท Thai President Foods (Hungary) ตั้งแต่ปี 2556 ณ เมือง Eztergom ซึ่งผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ Thai Chef เพื่อจำหน่ายในยุโรป

7. ด้านการท่องเที่ยว

          7.1 ชาวฮังการีนิยมไปเยือนประเทศไทยเพิ่มขึ้นในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะในกลุ่มที่ท่องเที่ยวกับครอบครัว (Family Leisure Trip) กลุ่มแต่งงานใหม่ (Honeymooners) และกลุ่มผู้สูงอายุ

          7.2 ในปี 2563 มีนักท่องเที่ยวชาวฮังการีเดินทางมาประเทศไทยจำนวน จำนวน 17,499 คน (ลดลง
อย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19) ขณะที่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปฮังการีประมาณ 7,000 คน/ปี

8. ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

           เมื่อปี 2562 ได้มีการลงนามในบันทึก ความเข้าใจว่าด้วยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและน้ำเสีย การศึกษา การวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวกับน้ำ รวมทั้งให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วม (Joint Steering Committee - JSC) เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างไทยกับฮังการี